เอ็กซ์เมน เลกาซี่ 249 | เอจ อ็อฟ เอ็กซ์ อาฟเตอร์แมทช์ | บอกเขาเรื่องด็อกเตอร์ไฮร์ท

สีดำ
โร้ก - เยี่ยมเลย นี่มันเป็นการเดินทางที่เร็วที่สุดเลยนะ ถ้าไม่นับการเทเลพอร์ท แต่ฉันคิดว่าเรามาไม่ทันเวลาที่พิพิธภัณฑ์เปิดทำการอยู่ดี
แม็กนีโต - นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา

โร้ก - พังมันและเดินเข้าไป ไม่ใช่ปัญหาของเราเหรอ ? คุณอย่าทำอย่างนี้ ทั้งหมดนี่มันผิดกฏหมายนะ แม็กนีโต ?
แม็กนีโต - เราจะไม่แตะต้องอะไร ฉันแค่หาที่ๆเป็นส่วนตัวคุยกับเธอ.
แม็กนีโต -จริงๆแล้ว  เพื่อเล่าเรื่องหนึ่งให้เธอฟัง มันเป็นอุทาหรณ์สอนใจเรื่องหนึ่ง และ มันมีอยู่ที่นี่
แม็กนีโต - นั่นเป็นของที่ถูกเก็บไว้รักษาเอาไว้อย่างดี สิ่งที่ช่วยให้ฉันมีวิสัยทัศน์ มันอยู่ที่ส่วนท้ายสุดของห้องแสดง รูปถ่ายใบหนึ่งที่ถูกถ่ายโดย รูธ กรูเบอร์

พวกเขาเดินมาถึงภาพถ่ายของชายคนหนึ่ง
แม็กนีโต - ออกัสต์ ไฮร์ท หัวหน้าภาควิชากายวิภาคที่มหาวิทยาลัยสตาร์บรูกปี 1940
โร้ก - คุณรู้จักกับเขา ?
แม็กนีโต - ไม่ดีและไม่ได้นานนัก
แม็กนีโต -แค่นานพอที่จะฆ่าเขาได้

แม็กนีโตเล่าถึงชายที่ชื่อ ออกัสท์ ไฮร์ท เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวยิว ที่กลัวว่าวันหนึ่งเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่าจะสูญพันธุ์  เขาไปเสนอวิธีการตรวจสอบว่าใครเป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า กับ ไฮริช ฮิมเลอร์

เขาเสนอให้เก็บตัวอย่างจากคน 100 คนในค่ายออสวิทซ์  เขาให้ฆ่าตัวอย่างเก็บไว้เฉพาะโครงกระดูกและอวัยวะเพื่อไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษา
และ ฮิมม์เลอร์ ชอบแนวความคิดของเขา

ดร.ไฮร์ท ลงไปเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยตนเอง และ เขาต้องการเด็กคนหนึ่งที่นั่งพิงกำแพงอยู่

แต่ทหารนาซีขอให้ยกเว้นเด็กคนนี้เพราะเขาทำหน้าที่เป็น SONDERKOMMANDO

เด็กคนนี้จึงรอดจากการเป็นกลุ่มตัวอย่างของดร.ไฮร์ทที่ภายหลังถูกสังหารด้วยแกสไซยาไนด์

และส่งร่างไร้วิญญาณไปศึกษาที่แผนกชีววิทยาในส่วนของไฮร์ท

เพื่อหาวิธีการพิสูจน์ว่าใครเป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยค่า

การทดลองของดร.ไฮร์ทสิ้นสุดลง เมื่อกองทัพพันธมิตรเคลื่อนพลมายึดเบอร์ลิน

เขาเกรงว่าถ้าตำรวจมาพบเข้ามันยากที่จะอธิบายการทดลองของเขาตั้งแต่เริ่มต้น

เขาปลอมเป็นเซลแมนและหนีไปฝรั่งเศส

เขาถูกจับขังเพราะว่า ฝรั่งเศสอยู่ในระหว่างประกาศเคอร์ฟิว

ลูกกรงเหล็กพังเข้ามาพร้อมกับเด็กหนุ่มที่ชื่อ ไอเซนฮาร์ด กับเชือกที่อยู่ในมือ

เด็กหนุ่มเึึคยเจอกับดร.ไฮร์ทที่โปแลนด์

ใช่เขาคือเด็กที่เป็น Sonderkommando ทีรอดจากการทดลองของดร.ไฮร์ท

แต่น่าเสียดายที่พ่อกับแม่ของเขาไม่รอด

และตอนนี้เขาต้องการให้ดร.ไฮร์ทรับผิืดชอบในสิ่งที่ทำลงไปด้วยเชือกในมือของเขา

ดร.ไฮร์ทบอกว่าเขาทำเพื่อวิทยาศาสตร์แต่เด็กหนุ่มไม่ฟัง 

เขาบอกว่าดร.ไฮร์ทต้องชดใช้ด้วยการแขวนคอ

เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เหมือนที่ดร.ไฮร์ทจำเป็นต้องฆ่าคนเป็นร้อยเพื่อวิทยาศาสตร์

และถ้าดร.ไฮร์ทไม่ทำ เขาจะไปให้พ่อและน้องสาวของดร.ไฮร์ท แขวนคอแทน

นั่นรวมทั้งลูกชายและลูกสาวของดร.ไฮร์ทด้วย

เด็กหนุ่มทิ้งเชือกไว้ให้ดร.ไฮร์ทให้เขาตัวสินใจด้วยตัวเองแล้วจากไป

ในที่สุดดร.ไฮร์ทก็เลือกแขวนคอตนเองตาย

แม็กนีโตบอกกับโร้กว่า่ เราถูกกำหนดทุกเหลี่ยมมุมด้วยอดีตของเราเอง

และสิ่งที่กำหนดตัวเขาขึ้นมาคืิอช่วงเวลาที่เป็นฝันร้ายและมืดหม่น

โร้กถามเขาว่าหลังจากนั้นแม็กนีัโตพยายามหาวิธีปลดปล่อยฝันร้ายออกไปใช่ไหม

แต่แม็กนีโตบอกว่าตรงกันข้าม เขาเป็นคนดึงดูดฝันร้ายและความมืดหม่นมาหาเขา

และปรับตัวอยู่กับมัน

         แม็กนีโต : ที่ป้อมปราการเอ็กซ์เธอรู้สึกดีกับฉัน และ ปรารถนาในตัวฉัน

         โร้ก : ใช่ แย่ตรงที่มันใช่

          แม็กนีโต : แต่เธอก็ไม่ได้ทำตามสิ่งที่เธอรู้สึก สัญชาตญาณของเธอถูกแล้ว เชื่อมันซะ กลับไปหาเลอโบ เขารักเธอ และ เธอก็รักเขาตอบ  ทำให้มันง่ายโร้ก ที่เหลือมีแค่นั้น และ ถ้าเขาทำให้เธอไม่มีความสุข .... เล่าเรื่องของดร.ไฮร์ทให้เขาฟัง ( มันหมายความว่าถ้าแกมบิททำให้โร้กเจ็บ แม็กนีโตอาจกลับมาบังคับให้แกมบิทแขวนคอตาย )

อีกด้านโท้ดโดนเฟรนซี่อัดทะลุกำแพง

ด้วยเหตุผลที่ว่าโท้ดเคยดูถูกทีมเทมโป( เฟรนซี่เป็นสมาชิกทีมนี้ในโลกเอจ ออฟ เอ็กซ์)

เฟรนซี่ไม่ได้ขอให้ไวท์ควีนลบความจำของโลกนั้น

แกมบิทเข้ามาห้ามเฟรนซี่และเตือนสติว่าโลกนั้นเป็นความฝัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนั้นไม่มีอยู่จริง

เฟรนซี่ได้สติและเดินจากไป

เฟรนซี่ยังรู้สึกถึงความรู้สึกในโลก เอจ ออฟ เอ็กซ์ 

เธอปรารถนาถึงทุกอย่างที่เคยสัมผัสในโลกนั้น

ทั้งการเป็นทหารในสมรภูมิ เลือดที่หลั่งริน และ ความสัมพันธ์กับบาซิลิกส์

เธอถามตัวเองว่า เธอเป็นใคร ?

โจแอนนา คาร์กิล งั้นหรือ นั่นมันแค่บางครั้งเท่า่นั้น

เฟรนซี่ตัดผมและเปลี่ยนชุดตัวเองให้เป็นแบบในจักรวาลเอจ ออฟ เอ็กซ์

เธอบอกว่าเธอคือ เฟรนซี่ 

การตั้งชื่อนี้ มันทำให้เธอได้ครอบครองมัน

เฟรนซี่ออกมาขอบคุณแกมบิทที่ช่วยให้เธอไม่ฆ่าโท้ด

และบอกว่าที่โลกเอจออฟเอ็กซ์ ความบ้าคลั่ง ความรุนแรงทำให้เธอเป็นฮีโร่

แต่ในโลกของความเป็นจริงมันแค่ความบ้าคลั่ง

เธออยากจะพยายามควบคุมมัน

เธออยากกลายเป็นฮีโร่อีกสักครั้งเหมือนในโลกใบนั้น

เธออยากจะเป็น เอ็กซ์เมน

อีกด้านดร.เนเมซิส ดร.ราโอ กำลังทดสอบการใช้อุปกรณ์สลับสัญญาณประสาทของลีเจี้ยน

ลีเจี้ยนทำการทดสอบสายรัดข้อมือสลับสัญญาณประสาทกับตัวตนอื่นๆของเขาจนเหนื่อย

และรู้สึกว่าสายรัดข้อมือมันจะใช้การไม่ค่อยดีนัก

ดร.เนเมซิสปฏิเสธลีเจี้ยนว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะสายรัดข้อมือนี่เขากับบ็อกร่วมมือกับรีดริชาร์ดสร้างขึ้นมา

เพื่อทำให้ลีเจี้ยนควบคุมบุกคลิกรองของเขาได้ในเวลาสั้นๆ

(ร่วมกับรีด ริชาร์ด เจริญล่ะ เพราะนอกจากประตูสู่เนกาทีฟโซนและแฟนตาสติกส์ คาร์ พ่อนี่เคยสร้างอะไรสำเร็จในครั้งแรกบ้างล่ะ )

เนเมซิสขอให้ลีเจี้ยนลองเรียกบุกคลิกรองตัวที่ 1012 มาอีกรอบ

แต่ลีเจี้ยนขอเรียกบุคลิกที่ชื่อ เดลฟิก ออกมา

เดลฟิกมีความสามารถตอบได้ทุกคำุถามที่อยากรู้เพียงแค่ตั้งคำถามให้ถูก

ดร.เนเมซิสถามเดลฟิกว่า พวกบุกคลิกภาพรองของลีเจี้ยนพยายามต่อต้านพวกเขาในบางครั้งใช่ไหม ? บุคลิกที่ชื่อเดลฟิกตอบว่าใช่เพราะพวกเขาไ่ม่ใช่ยักษ์ในตะเกียงวิเศษของดร.เนเมซิสที่จะถูตะเกียงเรียกออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
ดร.เนเมซิสเตรียมสั่งให้เขาหยุดต่อต้าน แต่ดร.ราโอกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงจึงตัดหน้าถามเดลฟิกว่า
คำตอบของเดลฟิกฟังคล้ายกับว่ามีการต่อต้าน ถ้ามันเกิดจากบุกคลิกภาพรองอื่นของลีเจี้ยน เดลฟิกพอจะบอกชื่อพวกเขาได้ไหม แต่เดลฟิกเลือกที่จะ ...

เรียกพวกบุกคลิกภาพรองของลีเจี้ยนที่ต่อต้านออกมา

 คือ เอนด์ฺเกม , ซูซาน อิน ซันไชน์ , ไทม์ซิงค์ , เชน , บลีดดิ้ง อิมเมจ

และ สติ้กซ์ ผู้นำของพวกเขา

ลีเจี้ยน ได้สติกลับมาและบอกให้ดร.ราโอและเนเมซิส ไปแจ้งโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ที

โร้กมาหาแม็กนีโตที่ห้องพัก ทั้งที่แม็กนีโตขอให้เธอไปจากเขา

โร้กบอกว่าคนส่วนใหญ่อยากได้ในสิ่งที่พวกเขารู้ว่ามันอาจเปลี่ยนเป็นสิ่งที่แย่สำหรับเขา

โร้กบอกว่าเธอหวาดกลัวความมืดและเธอไม่ได้ทำข้อตกลงแย่ๆอะไรกับเขา

คืนนี้..ยังอีกยาวไกล

แล้วโร้กก็จุมพิตกับแม็กนีโต

นั่นเป็นเพราะความทรงจำของเลกาซี่ ?

หรือ

ความปรารถนาของเธอเอง

( โร้กต้องการการสัมผัสจากผู้อื่น แม็กนีโตสามารถสร้างสนามพลังบางๆคลุมร่างเอาไว้ได้ ทำให้เขาสามารถสัมผัสโร้กได้ เขามีสิ่งที่เธอต้องการ )

และ ตอนหน้า Lost Legion