Pages

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

X-MEN PRELUDE TO SCHISM #2 | บุตรที่น่าภาคภูมืใจของเยอรมัน

เนินแบร์ก ประเทศเยอรมัน - 1935
" ปัญหาของแม่เหล็ก "
" มันไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ "

" เอาแม่เหล็กสองอันไว้ด้วยกันและคุณไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
" หลายครั้งมันเป็นแบบนั้น ตอนที่คุณคิดว่ามันจะดูดเข้าหากัน "
แต่ในภาพแม่เหล็กกลับผลักกันออกไป

" ผมคิดว่า เราทุกคนเป็นเช่นนั้น "

" เราทุกคนเป็นแม่เหล็ก "
ไซคล็อป : คุณกำลังทำอะไรอยู่อีริก
แม็กนีโต : มันเป็นสัญลักษณ์ที่ผมเคยทำสมัยเด็ก : ผมพบว่ามันช่วยให้คิดภาพออกหลายอย่าง ที่จริงแล้ว ความกลัวของคุณมันเล็กน้อยกว่าของพวกเขาอีก
แม็กนีโต : บอกสิ่งที่มันจะเกิดมาเถอะ สก็อตต์ ฉันอยากจะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้นด้วยความกล้าหาญที่มีอยู่น้อยนิดดีกว่าไม่หลงเหลือความกล้าในสิ่งใดเลย
ไซคล็อป - งั้น คุณก็เจ็บปวดเหมือนกัน ?
แม็กนีโต - แล้วคุณไม่เป็นแบบนั้นหรือไง
ไซคล็อป - ใช่
ชาโดว์แคท : เราอาจผิดก็ได้ บางทีมันอาจไม่ได้กำลังจะมา ..
ไวท์ควีน : มันกำลังมา และ เราหยุดมันไม่ได้  ไม่มีอะไรที่เราทำเพื่อป้องกันเรื่องนั้นได้เลย

ไวท์ควีน : พวกเขาคุยอะไรกันอยู่เพื่อจัดการเรื่องนั้น ?

แม็กนีโต " ผมหวังว่า ผมจะรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไีรอยู่ สก็อตต์"
"  ผู้นำคนเพียงหนึ่งเดียวซึ่งในท้ายที่สุด เขาปล่อยให้การทำลายล้างเกิดขึ้นในช่วงเวลาแรกสุดของอิสระภาพของพวกเขา เขาจะทำอย่างไร ? "

"  ถ้าหากเรารอดจากสิ่งที่กำลังมาถึง ชาติพันธุ์มิวแตนก็น่าจะมีโอกาสเขียนประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานี้ ตอนนั้น ประวัติศาสตร์จะเห็นว่า คุณเป็นชายที่ยิ่งใหญ่  สก็อตต์ ซัมเมอร์ "

" ผู้นำคนที่รวบรวมพวกมิวแตน์เข้าด้วยกันและพาพวกเรามา ถึงดินแดนแห่งพันธะสัญญาของพวกเรา ยูโทเปียของพวกเรา "

" ผมรู้จักชายผู้ยิ่งใหญ่หลายคน "

" อย่างเช่น จาค็อบ ไอเซนฮาร์ด พ่อของผม เขาอาศัยอยู่ที่เนินแบร์ก ประเทศเยอรมัน "



" พ่อของผมต่อสู้ในกองร้อยเยอรมันที่หกสิบ ในเดือนตุลาคม ปี 1914 ในสมรภูมิที่เรียกกันว่า การบูชายัญของผู้บริสุทธิ์ "

" คนหนุ่มสี่หมื่นคนเสียชีวิตในสมรภูมินี้ พ่อของผมตาบอดจากแก้สมัสตาร์ดและใช้เวลารักษาตัวในโรงพยาบาลห้าวัน "

" ในตอนกลางคืน ใต้แสงสลัวและประกายกระสุนปืน คนหนุ่มในเยอรมันจะแบกพวกเขาที่ตายไปสุมรวมกันในหลุมศพไร้ญาติ "
" เขาวางศพจำนวนมากลงในหลุมโคลน และ บางที มีบางชิ้นส่วนของพวกเขาเท่านั้นที่ยังดูดีอยู่ "

" ในฤดูร้อนของปี 1916 พ่อของผมไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง เขาลากชาวบาวาเรี่ยนที่ชื่อวาชาร์ฟไปสู่ที่ปลอดภัยใกล้หลุมโคลนท่ามกลางห่ากระสุนของศัตรู "

" หลายเดือนผ่านไป ผู้บังคับการคนเดียวกันได้กลัดเหรียญ IRON CROSS บนปกเสื้อของพ่อผม "

" เขายกย่องพ่อของผมว่า เป็น บุตรที่ชาวเยอรมันภาคภูมิใจ "

" และ บุตรที่ชาวเยอรมันภาคภูมิใจอย่างพ่อผม ยังตระหนักดีว่า ประเทศของเขาเริ่มเกลียดชังเขาจากอุบัติเหตุแห่งการกำเนิดของเขา "

แม็กนีโตยังเด็กเขาไม่รู้ว่า ขณะนั้นนาซีเยอรมัน นำโดยฮิตเลอร์เริ่มดำเนินการบอยคอร์ทชาวยิว
ความเกลียดชังพวกยิวเริ่มก่อตัว แม่ของแม็กนีโตกังวลเรื่องนั้น
ในขณะที่พ่อของเขายังมองในแง่ดีและปลอบใจครอบครัวไม่ให้วิตก
" พวกเขา(นาซีเยอรมัน)ทำอะไรหลายอย่างที่พวกเราไม่คิดว่าพวกเขาจะทำ "
" พวกเขาไล่ต้อนพวกเราเหมือนหมาและส่งพวกเราเข้าค่ายกักกันที่เข้มงวด "
" พวกเขาไม่ยอมให้เราแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ ยิว. พวกเขาไม่ให้เราใช้ประกันสุขภาพ หรือ ให้เราไปเรียนอยู่ในโรงเรียนของพวกเขา "
" พวกเขาไม่เคยยกเลยประกาศเคอร์ฟิวส์ รวมทั้ง ซ้อมพวกเรา ถ้าหากเราไม่สนใจกฏของพวกเขา "
" ตอนที่ผมร้องไห้ให้กับความไม่ยุติธรรม พ่อของผมปลอบประโลมผมด้วย การมองโลกในแง่ดีและความกล้าหาญของเขา "

" พ่อผมบอกว่า  จงจำไว้ว่าลูกเป็นใคร จงอย่าลืมว่าลูกเป็นบุตรที่น่าภาคภูมิใจของประเทศ มันไม่สำคัญเลยว่าใครพูดว่ายังไง "
" และถ้าหากวันหนึ่งลูกมีโอกาส สัญญากับพ่อสิว่า ลูกจะใช้ชีวิตเพื่อคอยช่วยเหลือคนของลูกทุกคน " ไม่ยกเว้นแม้แต่ส่วนน้อย "

แม็กนีโต : ผมคิดว่าคุณต้องมีอะไรสัญหารือกับผม สก็อตต์ เว้นแต่ว่า คุณเพียงขอให้ผมมาที่นี่ และ มองคุณกลุ้มใจ ?
ไซคล็อป : ผมเสียใจ ผมไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ใส่ใจคำพูดของคุณ ผมมีเรื่องมากมายให้ทบทวนและไม่มีทางเลือกให้มากนัก ผมหมายถึงแบบนั้น
แม็กนีโต : ผมเข้าใจ ถ้างั้น มีอะไรที่ผมทำเพื่อคุณได้บ้าง ?

ไซคล็อป - ผมรู้อยู่แล้วว่า เรามีความแตกต่างกัน แต่ ประเทศนี้ หรือ ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม มันจะแบ่งเป็นการยอมรับและการต่อต้าน. เราจะมุ่งไปข้างหน้าทุกวัน อีริก.  เพราะว่าเราทั้งหมดกำลังล้ำหน้าไปไกลด้วยมือของเด็กๆของเราในช่วงเวลาหลายปีมานี้

แม็กนีโต - ผมคิดว่าบางที ผมได้มาไกลพอที่จะพบข้อสรุป แต่ คุณไม่ขอให้ผมเกลาเนื้อเพลง เรื่อง ศักยภาพของชาติพันธุ์มิวแตนท์เสียที .
ไซคล็อป - คุณพูดถูก เป็นความจริงที่สำคัญ ผมหวังว่า คุณอาจให้คำแนะนำกับผมสักนิด.
แม็กนีโต - แน่นอน. จงยิงเมื่อคุณพร้อม

ไซคล็อป - ผมรับฟังคำแนะนำเชิงสันติมากมายจากชาร์ล ซาเวียร์ และ มันเป็นคำแนะนำทีล้วนแต่อัศจรรย์ใจ. ตอนนี้ ผมอยากฟังจากคุณ อีรีก :  อะไรคือสิ่งพิเศษที่คุณได้เรียนรู้มาในช่วงหลายปีของชีวิตคุณ  ,สิ่งที่ผมจำเป็นต้อทราบเพื่อให้รู้ว่ากำลังก้าวไปข้างหน้าอยู่หรือไม่ ?

แม็กนีโต - ฮ่า ฮ่า เยี่ยมจริง... ผมคิดว่าคำแนะนำที่ดีที่สุดของผมก็คือ น่าจะมองหาคำแนะนำจากผู้อาวุโสและผู้ที่ฉลาดกว่าคุณหน่อย . แต่คุณก็ได้มองครอบคลุมประเด็นนั้นเอาไว้แล้ว

แม็กนีโต - คุณอย่าคุยเรื่องจุดจบเลย มันเป็นอนาคต ในข้อนั้น คุณได้ทำให้ผมระลึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างของพ่อผม

แม็กนีโต หวนนึกถึง เนินแบร์ก เยอรมัน ปี 1935
ตลอดเวลานั้น พวกเขาถูกปฏิบัติเหมือนไม่ใช่คน
แต่ พ่อของเขายังมองโลกในแง่ดี อดทน และ ไม่เคยยอมแพ้
"พ่อของผมยังมองโลกในแง่ดี -- เขายังศรัทธาในพระเจ้าของผู้อื่น -- พวกนาซีแสดงความเป็นเจ้าของในประเทศอันเป็นที่รักของเขา"
" ขณะเดียวกัน พวกออสเตรียโสโครก -- ฉวยโอกาสแผ่อิทธิพลในเยอรมันและเรื่องนั้นได้ส่งผลมาถึงเมืองของผมในเนินแบร์ก"
" จาค็อบ ไอเซนฮาร์ด เปลี่ยนจาก วีรบุรุษแห่งเยอรมัน เป็น ตัวปัญหา "
" ชาวยิวทุกคนถูกกีดกันจากทุกประเทศในยุโรป เมื่อพวกเขากดดันให้เราลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์"
" วันที่ 9 พฤศจิกายน 1938 ผมมองลอดหน้าต่างบ้านเฝ้าดูเหตุการณ์ที่ถูกปกปิด"
" มันถูกเรียกว่า คริสตัล ไนท์ เพราะว่าเสียงกระจกแตกดังไปทั่วเยอรมัน และ ธุรกิจของชาวยิวถูกทำลาย โดยการผลักดันของ โจเซฟ กอบเบลส์"
" หนึ่งปีผ่านไป ครอบครัวของผมถูกขับออกจากเยอรมัน และถูกส่งไปอยู่ในสลัมที่กรุงวอร์ซอว์"
" ผมได้ใช้เวลาอยู่ข้างกายของพ่อผมมายาวนาน จาค็อบ ไอเซนฮาร์ด แห่งเนินแบร์ก -- บุตรที่น่าภาคภูมิใจของประเทศเยอรมันและวีรบุรุษแห่งสงครามอันยิ่งใหญ่"
" ผมยังคงบอกกับตัวเองว่า ผมต้องลืมว่าพ่อกับแม่ของผมตายเพราะพวกนาซียังไง. ผมต้องสู้และเหน็ดเหนื่อยกับเหตุการณ์ที่พวกมันยัดมาให้. วันหนึ่ง พวกเขาตายไปอย่างง่ายดาย และ ผมต้องอยู่เพียงลำพัง"
" ผมจำได้ว่าเราถูกส่งขึ้นรถบัสไปสู่สถานที่หนึ่งใกล้กับออสวิซม์ในโปแลนด์ และ นี่คือที่ผมรู้ว่ามันเป็น ชะตากรรม "
"การสังหารหมู่ที่ค่ายกักกันออสวิซม์-เบิร์กนิวเป็นตัวอย่างของนรกบนดิน"
" ที่นี่ ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กถูกฆ่าและถูกทารุณกรรมด้วยกระบวนการของนาซีที่ถูกเรียกว่า คำตอบสุดท้ายของปัญหาเรื่องชาวยิว"
" ด้วยความที่ยังหนุ่มและร่างกายแข็งแรง ผมถูกบังคับให้ทำหน้าที่เหมือนหน่วย Sonkommando ( หน่วยทหารของยิวที่ทำหน้าที่รมก๊าซพิษ)--งานของผมคือเก็บกวาดร่างของพวกที่ตายในห้องรมแก๊ส"
" พวกเหยื่อบอกว่า พวกเขาต้องมาอาบน้ำและเตรียมตัวสำหรับไปทำงานในค่าย แต่พวกเขากลับถูกส่งไปหาความตาย "
" นี่คือสถานที่สุดท้ายที่ผมต้องมา เช่นเดียวกับพ่อของผม"
" ทอดกายลงในท้องร่องที่เต็มไปด้วยโคลน"
แล้วแม็กนีโตก็หลบหนีออกมาจากค่ายออสวิซม์
" พวกเราทุกคนคือแม่เหล็ก บางครั้งเราผลักและบางครั้งเราดูด "
" ชีวิตผลักให้ผมพบกับหญิงสาวที่ชื่อ แม็กด้า และใช้ชีวิตร่วมกัน. เราหนีจากนรกในเบิร์กนิวโดยหวังว่าจะพบชีวิตใหม่ "
" แม็กด้ากับผมไปใช้ชีวิตในยูเครน. เธอเป็นอีกครึ่งหนึ่งของทุกอย่างที่ผมโอบกอดเอาไว้ ที่รัก-- ทั้งหมดนั้นสำคัญสำหรับผมในโลกใบนี้. ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง เป็นของลูกสาวแสนสวย อันย่า "
" ในเวลาเดียวกันผมเริ่มรู้สึกแปลบปลายผ่านปลายเส้นประสาท--มันเป็นการก่อตัวของพลังจากด้านในของผม มีการกระตุกของไฟฟ้าชีวภาพแถวๆฟันของผม"
"เมื่อเวลาที่เลวร้ายมาถึง ปลายประสาทของผมรู้สึกเหมือนกรีดสายไวโอลินและโอโวนเหมือนเต็มไปด้วยอากาศ"
" ขณะที่ ผมได้แต่มองลูกสาวโดนเผาทั้งเป็นและตายอยู่ในบ้าน ผมรู้สึกเหมือนดึงดูดวัตถุที่เป็นเหล็กในระยะหลายไมล์มาอยู่รอบตัว "
" ปลายประสาทของผมกลายเป็นมีที่ถูกเผาจนร้อนฉ่า"
" และผมส่งมีดพวกนั้นกลับไปฝังร่างของพวกมนุษย์ทุกคนที่เกลียดผมเพราะการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมอย่างฉับพลัน "
"ในออสวิซม์ ผมได้เห็นชาวยิวเดินไปสู้ความตายอย่างเลือกไม่ได้และสูญเสียความหวังอย่างสมบูรณ์แบบ"
" ตอนที่คุณหมดหวัง คุณไม่เคยพูดถึงความหวัง"
" ตอนนี้ ผมมุ่งหวังเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ตอนนี้ ผมคุยเรื่องอนาคตได้ เหมือนกับที่พ่อเคยคุยกับผมมาก่อน "
" ผมมีเป้าหมาย "
" ผมได้รับอาวุธคือพลังที่ผมไม่เคยมีมาก่อน "
" ปลดปล่อยพลังออกไปในทุกทิศทาง"
" ดื่มด่ำกับพลัง "
และที่แหลมชิทาเดล กองทัพอากาศ ในฟลอริดา
แม็กนีโตได้พบกับเอ็กซ์เมนเป็นครั้งแรก

แม็กนีโตเจอกับเอ็กซ์เมน เฟิีร์สคลาส ( คนละทีมกับในหนังนะครับ )

แม็กนีโต : เด็กของชาร์ลสิท่า ?
หลังจากแม็กนีโตถกเถียงกันเรื่องความเชื่อส่วนตัว
การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นและดูเหมือนเอ็กซ์เมนทำอะไรเขาไม่ได้


ตอนนั้นแม็กนีโตมองเอ็กซ์เมนเป็นหน่วย Sonkommando ที่ต้องทำลายล้างให้หมด
และนั่นเป็นตอนที่เขาเผชิญหน้ากับไซคล็อปเป็นครั้งแรก
ไซคล็อปยิงออพติกส์ บลาสท์เข้าใส่แม็กนีโต ด้วยพลังระดับ 10 ล้าน ล้าน โวลต์จากดวงตาของไซคล็อปเกือบทำให้แม็กนีโตที่ใช้พลังแม่เหล็กต้านอยู่ กระเด็นออกจากรองเท้าบู้ทของเขา

" ผมจำได้ถึง ข้อสงสัยของผมที่เปลี่ยนไป ผมจำได้ว่าผมมองเข้าไปในตาคู่นั้น "
" ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า นี่คือครั้งแรกที่นำผมไปสู่อนาคตที่แตกต่างออกไปจากที่ผมมุ่งหวังไว้ "
" ครั้งแรกที่ผมมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของคุณ "
" ผมไม่อายเลยที่จะยอมรับว่า นั่นคือผมคนที่ส่องประกายอยู่เป็นสิ่งแรก "

ปัจจุบัน
แม็กนีโต - พวกเราทุกคนเป็นแม่เหล็ก บางอันมีแรงมากกว่าอันอื่นๆ
ไซคล็อป - ให้ผมขออภัยดีไหม ?
แม็กนีโต - ผมผิดสก็อต เป็นแค่ตาแก่โง่เง่าที่ดูเหมือนทำผิดเสมอในตอนจบ ผมคิดว่าตัวตนของผมดึงดูดมาแต่สิ่งที่ผิดพลาด. คำแนะนำที่ดีที่สุด ที่ผมให้คุณได้ คือ อย่าเก็บกดความปรารถนาไว้ เช่น เดียวกับที่ผมทำ. อย่าทำให้ทุกอย่างตกอยู่ในความควบคุม.
ไซคล็อป - ขอบคุณอีกริก ผมเข้าใจความหมายของมัน

แม็กนีโตเดินผ่านโปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์
แม็กนีโต : เขาเป็นของนาย
แม็กนีโตเดินกลับมาหาพวกเอ็กซ์เมนที่รออยู่ และ บอกว่า สก็อตต์ฝากเขามาขอโทษทุกคนแทนด้วย
เอ็กซ์เมนถามกลับว่าเขาบอกให้พวกเราทำอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีคำตอบจากแม็กนีโต เขามองไปทางโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์กับไซคล็อปที่กำลังคุยกัน ( ที่จริง เล่ม 2 นี่เกิดขึ้นก่อนเล่มหนึ่ง )

" ผมจะไม่ขอบคุณในสิ่งที่คุณได้ทำไปแล้ว หรือ สิ่งที่คุณกำลังจะทำ สก็อตต์. คำขอบคุณของผมมันไม่เพียงพอ "

" แทนที่จะทำแบบนั้น ขอให้ผมขอบคุณในนามของพ่อผม จาค็อบ ไอเซนฮาร์ด แห่ง เนินแบร์ก "
" ชาวยิวที่ดีคนหนึ่งและ วีรบุรุษที่แท้จริงของเยอรมัน "

เงาสะท้อนของไซคล็อปในกระจก แม็กนีโตเห็นเป็นภาพพ่อของเขา

1 ความคิดเห็น:

  1. หล่าผู้กลายพันธุ์แต่ละคน ช่างผ่านชีวิตน่าเศร้ามาเกือบทุกคนเลย
    ผมว่าสิ่งที่สร้างแม็กนีโต้ขึ้นมาไม่ใช่ Dna หรอกแต่มันคือ ค่ายกักกันชาวยิวต่างหาก ทำให้เกิดแม็กนีโต้ ขึ้นมามากว่า
    ดูเหมือนจะโยงกะแส หนังนิดหนึ่งนะครับเกี่ยวกับ ชุดที่ย้อนให้ดู แต่เอาเหอะ คนทั่วไปก็รู้จัก X-men อยู่แล้วจะว่าไป เท่าที่จำได้หนังX-Menภาคแรกนี่ผมไปดูในโรงตอน ม.2 อยู่เลยครับผม เพราะรู้จักแค่ สไปเดอร์-แมน กับX-Menเพราะ ช่อง7 กับ 9เอามาฉาย
    คราวนี้ ภาค 1st class vd,kojk9bf9k,kdg]p8iy[z,
    ตอนี้ คือเหตุการ์ณล่าสุดเลย ขอบคุณ โกสต์ไรเดอร์มากเลยครับ สปอยครบสองปียังครับผม?
    ขอบคุณที่สปอยครับผม

    ตอบลบ