Hope นอนแผ่หมดแรงบนเตียง
แต่มีเสียงจากด้านนอกดังมาปลุกเธอตื่นขึ้นมา
เมื่อลุกไปดู เธอก็ตกใจมากเพราะ ...
แต่มีเสียงจากด้านนอกดังมาปลุกเธอตื่นขึ้นมา
เมื่อลุกไปดู เธอก็ตกใจมากเพราะ ...
ด้านนอกบ้าน
พ ว ก เ ร า ล้ อ ม เ อ า ไ ว ้ ห ม ด แ ล้ ว !!!
คนที่มาพบกับ Hope คือ Havok แล้วพวกเขาก็มาคุยกันบนยาน S.H.E.I.E.L.D Hellicarier
Havok ชวนคุยเพื่อคลายเครียด( แน่ล่ะ เอายานลำเบ้อเร่อมาจอดหน้าบ้าน ใครจะไม่เครียด )
Hope บอกกับ Havok ว่าไม่ต้องพูดอะไรอ้อมค้อม ขอให้เข้าประเด็นที่มาหาเธอเลย
Havok - ก็ได้..ก็ได้ เรากำลังหาตัวเคเบิ้ล เธอได้เจอพ่อเธอบ้างมั้ย ?
************************
Hope - เจอสิ ก็หนูนั่งอยู่นี่เป็นชั่วโมง กำลังดูข่าวที่เขาทำคุณหน้าแหกไง ตรงนั้น บนทีวีจอใหญ่นี่
Havok - เธอคิดออกอีกไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
Hope - ไม่ หนูไม่รู้
************************
Havok - ลองดูนั่น นั่นดูเหมือนผู้ก่อการร้ายเอามากๆ เคเบิ้ลกับเอ็กซ์ฟอร์ซทีมใหม่ของเขาเพิ่งกลายเป็นกลุ่มมิวแตนท์ที่เราต้องการตัวมากที่สุดในบัญชีรายชื่อ
Hope - โอ ใช่สิ ? มีใครในรายชื่อนั่นอีกล่ะ ? เหมือนหนูจะจำได้ว่ามีพี่ชายของคุณอยู่ด้วยคนหนึ่งนี่นา( หมายถึง Cyclops ครับ พี่แกก็เป็นนักโทษแหกคุกอยู่ )
************************
Havok - โฮป ฉันไม่คิดว่าพ่อของเธอเป็นผู้ก่อการร้าย เขาเป็นฮีโร่คนหนึ่ง เป็นนักวางแผนคนหนึ่ง เขาไม่ก่อเรื่องเลวๆโดยปราศจากเหตุผลที่ดีบัดซบแน่ แต่จนกว่าเราจะรู้ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร ฉันก็ช่วยเขาออกจากการเหมารวมว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไม่ได้ มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่นเมื่อคืนวานนี้ล่ะ ?
Hope - หนูไม่ทราบจริงๆ
Havok - บอกมาเถอะ ... เธอรู้จักเคเบิ้ลดีกว่าใคร เธอรู้อะไรบางอย่าง บอกฉันมาเถอะ
Hope - ขอโทษค่ะ
Wolverine กับ Rouge เข้ามาขัดจังหวะ
Wolverine - พอเถอะ อเล็กซ์
************************
Wolverine - นายรู้นี่ว่า เมื่อก้าวเข้ามาในนี้ เด็กนั่นก็ไม่ได้เจอกับตาแก่ของเธอ ถึงเธอจะรู้อะไร นายก็เค้นมันออกจากปากเธอไม่ได้หรอก
************************
Havok - เยี่ยม ถือว่าฉันถามเฉยๆแล้วกัน
Havok ตัดใจเลิกถามและจะกลับ
************************
Hope - คุณอยากให้หนูบอกอะไรสักอย่างเกี่ยวกับพ่อของหนูใช่มั้ย ได้สิ --
************************
Havok - เมื่อถึงเวลาที่เคเบิ้ลต้องการความช่วยเหลือของคุณ เขาจะขอมาเอง
X - ก่อนหน้านั้น. ( หลังจากนี้เป็นเหตุการณ์ก่อนที่ Havok จะมาคุยกับ Hope ทั้งหมดครับ )
Cable - ฉันขอทำให้เรื่องนี้มันสั้นลงนะเพราะว่าพวกเราดำเนินการช้ามากแ้ล้ว
************************
" นี่คือสิ่งที่ฉันเห็นในภาพนิมิต
" 36 ชั่วโมงต่อจากนี้ จะมีผู้เสียชีวิต 57 คนในร้านเฟรนไชน์อีท-มอร์ ที่อัลบิวเกเก้ รัฐนิวเม็กซิโก
ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือเด็กหนุ่มอายุ 17 ปีที่ทำหน้าที่ผัดๆทอดๆก็กลายเป็นมิวแตนท์
************************
" 18 ชั่วโมงต่อมา หลังจากกรมควบคุมโรคสั่งปิดร้านในเครืออีท-มอร์ทั่วประเทศ ก็มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3000 คน พยานที่เหลือรอดมาได้มีเก้าคน ทั้งหมดนั่นเป็นมิวแตนท์
" กรมควบคุมโรคตั้งชื่อกลุ่มอาการว่า RPD-14 แต่ประชาชนส่วนมากจะเรียกมันว่า GIRTH
************************
" มิวแตนท์มีภูมิคุ้มกันในตัวแต่ก็สามารถเป็นพาหะกระจายเชื้อให้คนอื่นด้วย มันคือไวรัสที่แพร่กระจายกัดกินไม่หยุดยั้งเหมือนในหนังเรื่อง OUT BREAK ( ชื่อหนังเก่าที่ว่าด้วยไวรัสจากลิงที่แพร่กระจายในเมืองแห่งหนึ่งแล้วกัดกินร่างกายคนเราภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง นำแสดงโดย ดัสติน ฮอฟแมน ถ้าผมจำไม่ผิด )
"นั่นทำให้พวกเขามีเวลาจัดการมันเต็มที่แค่สองสัปดาห์"
************************
CABLE - นั่นเป็นตอนที่ทุกอย่างมันย่ำแย่มากแล้วนะ
Cable - อาหารที่ปนเปื้นเชื้อ Girth ทั้งหมดพบว่ามาจากแผนกการผลิตหลักของอีท-มอร์ในเมืองเซโดน่า รัฐอริโซน่า. ถ้าเราไปจัดการที่นั้นไดก่อนเราก็จะหยุดยั้งมันได้
Cable - รถขนส่งเนื้อจะเข้าไปในวันพรุ่งนี้ เรามีเวลา 26 ชั่วโมง
************************
Domino - ฉันจัดการคนเดียวก็ได้ มันแค่พังและเผาโรงงานอุตสาหกรรมเอง ใช้เวลา 90 นาทีเท่านั้น อีกหนึ่งชั่วโมงให้เทเลพอร์ทฉันเข้าไปเลย
Cable - ไม่ได้
Domino - ทำไมไม่ได้ล่ะ ?
************************
Nemesis - ดูเหมือนเป็นเพราะว่ามันง่ายเหลือเกินที่พุ่งเป้าลงไปและชี้ชัดว่าเนื้อพวกนี้เป็นสาเหตุ
Cable - ไม่ใช่
Nemesis - ไม่ใช่ ? ทำไม่ไม่ใช่ล่ะ
************************
Forge - เธเรซ่า เพย์ตัน คือ เหตุผลว่า " ทำไมถึงไม่"
- กลุ่มผู้มีอำนาจของอีท-มอร์เป็นพวกที่ต่อต้านมิวแตนท์ครั้งใหญ่ เธอคือหญิงที่เป็นสาเหตุให้เป็นประเด็นสาธารณะในช่วงสองสามเดือนมานี้ ด้วยการติดคำพูดว่า " มิวแตนท์เป็นภัย " ในร้านอาหารของเธอ และ บอกต่อพวกมหาเศรษฐีคนอื่นๆด้วย
Forge - เธอเป็นเป้าหมายของเรา โค่นเธอลงและเราจะ--
Cable - ไม่. นี่เหมือนการผ่าตัด เราจะไปกันเงียบๆ เราคืบเข้าไปในความมืดและจัดการมัน
************************
Domino : ทำไมเราต้องทำให้เรื่องนี้มันยากนัก เนท ?
Hope : พ่อ บอกพวกเขาเถอะ บอกพวกเขาว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น
************************
Cable : ......
Hope : เอาเถอะ คิดว่าหนูไม่ได้ยืมพลังของพ่อมาดูสิ่งที่อยู่ในหัวของพ่อและเห็นอนาคตก็แล้วกัน
************************
Hope : ต่อจากนั้น พวกมันก็ค้นพบวิธีการรักษา เพย์ตันออกโทรทัศน์และโยนความผิดทุกอย่างให้กับมิวแตนท์ผู้ก่อการร้าย เธอบอกว่าพวกเราวางแผนการใช้ไวรัส แล้วเรียกมันว่าเป็นการประกาศสงครามอย่างเปิดเผยระหว่างมิวแตนท์กับมนุษย์ชาติ เธอหัวดื้อแถมยังงี่เงา แต่ประชาชนรับฟัง
************************
Hope : เราไปถล่มที่นั่นไม่ได้เพราะว่ามันจะทำให้เรื่องนี้เกิดเร็วขึ้นภายในสุดสัปดาห์นี้ มันเสี่ยงมาก รวมทั้ง การเผาไวรัส มันหมายความว่า เราจะหยุดมันไม่ได้ถ้ามันแพร่กระจายออกไปด้วยวิธีอื่น
Hope : การส่งสัญญาณเตือนก็ทำไม่ได้ เพราะว่าถ้าหากเพย์ตันเป็นเหมือนกับพวกมหาเศรษฐีที่จงเกลียดจงชังมิวแตนทร์ในโลกนี้ เธออาจจะเป็นคนแพร่พันธุ์ไวรัสด้วยตัวเธอเอง ถ้าหากเราพุ่งเป้าไปหาเธอ ใครจะรู้ว่าเธอจะทำอะไรบ้าง
Hope : ทีนี้ด้วยการ เผชิญหน้ากับเพย์ตันตรงๆ จะทำให้เราจัดการแค่กระแสอนาคตเท่าที่เห็นนี่ the butterfly effect ก็จะอยู่ในความควบคุม
( Butterfly effect : ปฏิกิริยาลูกโซ่ หมายถึงเหตุการณ์เล็กๆที่้เกี่ยวเนื่องกันไปอย่างไม่หยุดยั้งจนเกินคาดคิด คือ หมายถึงเพียงแค่ผีเสื้อขยับปีกก็ส่งผลถึงดวงดาวระเบิดย่อยยับได้ )
************************
Hope : ถ้าหากเราปล่อยให้ปัจจุบันเป็นไปแบบนี้ อนาคตนั่นต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เราเปลี่ยนมันได้โดยวิธีเดียว คือ เราต้องกำหนดวิธีการจัดการ
Cable : นั่นถูกต้อง งั้น นี่คือแผน
X- บริษัทอีท-มอร์จำกัด , สำนักงานใหญ่ เวลา 18.26.13 น.
Forge ถูกส่งเข้ามาติดกล้องเพื่อจับตาความเคลื่อนไหว แต่ถูกพบตัวเสียก่อนโดย Teresa Payton และ Eat-more gaurd
Cable - ต่อไปก็ เคลื่อนกำลัง ดอม ผมอยากให้คุณรู้จักโครงสร้างของที่นั่นทั้งภายในภายนอก พีท(โคลอสซัส)จะพาเราเข้าไป แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับคุณ มีคำถามอะไรมั้ย ?
Domino - มันเป็นระบบที่เกือบจะปลอดภัยสำหรับโรงงานนะ แต่โรงงานก็คือโรงงาน มัมมีจุดบอดโน่น นี่ นั่น และ นู่น ฉันนับรอยโหว่ได้อย่างน้อยก็เก้าจุดล่ะ
*********************************************
Domino - ตราบเท่าที่ฟอร์จยังส่งข้อมูลการแทรกซึมมาให้-- ฉันจะทำให้เราเหมือน ผี เลย
Hope - ใช่ ! ผีซุปเปอร์สายลับ ! นั่นเหมาะเหม็งเลย ! เราคือ เอ็กซ์-ฟอร์ซ
*********************************************
Cable - ไม่ใช่
Hope - เยี่ยมออกนะ หนูจะเรียกพวกเราด้วยชื่อนั้น
Cable - ไม่ใช่ เธอไม่ใช่
Hope - พ่อนี่เป็นพวกที่ไม่มีอารมณ์สนุกสักครั้งเลยจริงๆ
*********************************************
Cable มอง Hope เหลียวหลังไปหน้าเศร้าๆ
Domino - ต้องรอให้เธอรู้เองเหรอ คุณไม่ได้บอกเธอสินะว่า คุณกำลังจะตาย
X-13.48.55
X-09:23:39
Cable : ทั้งหมดที่เราต้องการให้นายทำนะ หมอ คือ กำจัดไวรัส ฉันไม่สนวิธีการ แต่มันต้องปราศจากเชื้อ
Hope ( ถาม Nemesis ) - คุณกำลังปรุงอะไรอยู่ ?
****************************************************
Nemesis - Johny-On-the-spot-cure สำหรับซุปเปอร์ไวรัสที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนจนกระทั่งเราได้ตัวอย่างมันมา มันคือจุดเล็กๆอันมืดมิดที่เป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์
Hope ( ถาม Nemesis ) - คุณจัดการมันไม่ได้เหรอ ?
Nemesis - จัดการมันไม่ได้ ?
****************************************************
Nemesis ชี้ไปทางกองปืนบนโต๊ะ
Nemesis - ผมจัดการมันได้แน่นอน ผมแค่จำเป็นต้องมีกระสุนชั้นเยี่ยมทั้งหมดของผม
****************************************************
Cable : และ ของพวกนั้นจะใช้งานได้ยังไง ?
Nemesis : พร้อมใช้ เมื่อนายพร้อม พูดออกมาเลยสิ
****************************************************
อีกด้าน Forge ที่ถูกจับได้ว่าแทรกซึมมา ก็กำลังฟังคำอธิบาย เหตุผลของ Teresa Payton Payton : 38 ล้านดอลลาร์เชียวนะ คุณฟอร์จ นั่นคือมูลค่าการลงทุนของบริษัทในไตรมาสสุดท้ายกับสิ่งที่ฉันขอเรียกว่าการ " ประนาณมิวแตนท์ "
: จากการชุมนุมประท้วง , โฆษณาทางอีเมลล์ , การกีดกัน ทำให้ผู้คนพูดกันเรื่องของฉันและทัศนคติที่แตกต่างของฉัน ไม่มีใครสักคนที่ตั้งคำถามว่า ทำไม ฉันถึงไม่ต้องการให้มีมิวแตนท์ในร้านอาหารของฉัน
: พวกเขาคิดกันเองว่า ฉันเกลียดและกลัวสิ่งที่แตกต่างเช่นเดียวกับพวกหัวรั้นทั่วไป
*******************************************************
Payton : ฉันไม่ได้เกลียดมิวแตนท์หรอกนะ คุณฟอร์จ และฉันไม่ได้กลัวคุณเพราะว่าคุณแตกต่างด้วย
Payton : แต่การพกอาวุธและพวกวัยรุ่นอันตรายๆที่มีพลังเหนือมนุษย์ที่ยังควบคุมตัวเองไม่ได้ มันเป็นปัญหาสำหรับร้านอาหารฟ้าสต์ฟู้ด มันหลายสิบปีมาแล้วที่ลูกจ้างของฉันและลูกค้าถูกฆ่าหรือบาดเจ็บหนัก ..ตอนที่พวกมิวแตนท์เด็กๆบังเอิญจุดไฟกลางอากาศหรือเปลี่ยนล็อบบี้ไปเป็นทรายดูด
*******************************************************แต่ขณะที่กำลังฟังเพย์ตันพล่าม ฟอร์จก็ได้แสกนโครงสร้างของชุดเกราะและพบจุดอ่อนบางจุด
*******************************************************
Payton : ตอนนี้ เมื่อลูกสาวของฉันถูกฆ่า นั่นไม่ใช่จากอุบัติเหตุหรือ วัยรุ่นคนหนึ่ง
Payton : นั่นเกิดจาก ชายคนหนึ่งกับพลังแม่เหล็กที่พยายามครอบครองแมนฮัตตัน คุณน่าจะจำได้
Forge : ผมจำได้
แล้วฟอร์จก็ถีบชุดเกราะเข้าตรงจุดอ่อน มันทำให้ถึงขั้นเกราะทำงานลัดวงจร แต่ไม่ทำให้คนในชุดถึงตาย
*******************************************************************************************
Forge : ผมเข้าใจว่ารากเหง้าของคุณมาจากไหน คุณผู้หญิง , ทุกคนเกลียดอะไรสักอย่างและคุณก็มีเหตุผลที่ดียิ่งกว่าทุกคน แต่ ถ้าหากผมไม่เข้าถึงระบบรักษาความปลอดภัยของคุณให้เร็ว , ถึงแผนของคุณจะดำเนินการไปได้เพียงครึ่งเดียวมันก็จะฆ่าลูกค้าและลูกจ้างของคุณมากกว่าที่มิวแตนท์คนไหนเคยทำมา
Payton : อะไรนะ ?
*******************************************************************************************
Payton : คุณพูดถึงเรื่องอะไรกัน ?
Forge : ...คุณ..
*******************************************************************************************
Forge : เดี๋ยวนะ คุณไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลย จริงหรือ ?
ก่อนที่จะได้คุยอะไรกันต่อ พวกหุ่นยนต์การ์ดอีกสองตัวบุกเข้ามา
ฟอร์จจึงกระโดดขึ้นขอตึก ก่อนกระโดดหนีลงไป แล้วบินไปด้วยรองเท้าบินได้
หลังจากขาดการติดต่อเคเบิ้ลกับเนเมซิสก็เตรียมออกปฏิบัติการ
โฮปแบกอาวุธมาครบมือและบอกว่าเธอจะไปด้วยแต่
Cable : เอาอาวุธพวกนั้นไปเก็บซะ เธอไปด้วยไม่ได้
Hope : อะไรนะ !? มันนรกมากที่หนูไม่ได้ไปด้วย หนูช่วยวางแผนหมดทุกอย่างเลยนะ !
Cable : นั่นน่าประทับใจ แต่ เธอต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น
Hope : ทำไมกัน ? พ่อรู้ว่าหนูช่วยพ่อได้ พ่อฝึกโหดกับหนูมาเป็นร้อยครั้ง และ หนักเสียยิ่งกว่าครั้งนี้อีก พ่อต้องการความช่วยเหลือทุกอย่างที่ช่วยพ่อได้ --
Cable : ตอนที่พ่อต้องการจากเธอ พ่อจะขอมันเอง
*****************************************************
Hope : ไม่มีทาง ต้องไม่เป็นอย่างนี้ --
Cable : หมอ --
*****************************************************
Nemesis ยิงปืนยาสลบใส่ Hope ข้างหลังจนเธอสลบไป
Cable : ฉันจะเทเลพอร์ทส่งเธอกลับบ้าน
*****************************************************
ประตูเทเลพอร์ทเปิดออกที่บ้านของ Hope
Domino : และคุณนี่มันก็เป็นผู้ชายประเภทที่อัดเธอให้สลบง่ายกว่าใช้คำอธิบาย..
Cable :
Cable : นั่นเป็นปัญหาของผม ดอม
*****************************************************
Cable : ไม่ใช่ของคุณ
แต่ระหว่างนั้นประตูเทเลพอร์ทก็ปิดลง Domino ยังไม่ทันข้ามมาด้วย
*****************************************************
Domino : และ... ฉันติดอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเด็กสาว
Cable ก็กลับมาที่ฐานและประตูฐานลับกำลังเปิดออก
Nemesis : เกิดอะไรขึ้น ?
Cable : คิดไม่ออก บางอย่างปิดแหล่งกำเนิดพลังของเรา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรเราก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดและเปิดเครื่องสำรองพลังงาน
******************************************************
Cable : บัดซบ
Nemesis : เฮ้ มันก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมดหรอก ...
******************************************************
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ Forge ที่ถูกหุ่นรักษาความปลอดภัยของอีท-มอร์ตามมา
Forge : ฉันแค่จะมาขออภัยกันต่อหน้าเลย นี่ฉันผิดเอง
Nemesis : อย่างน้อยฟอร์จก็เอาพวกมันกลับมาด้วย
Cable และ Nemesis ก็พุ่งเข้าประจัญบานทันที
Cable : ไม่รู้หรอกนะว่าแกเป็นใครหรือแกต้องการอะไร
Cable : แต่ฉันรู้เรื่องนี้ ----
การรบก็เริ่มขึ้นทันที
Cable : เราไม่มีเวลาให้แกหรอก
ดูเหมือนว่าหุ่นพวกนั้นจะุุถูกสอยร่วงในเวลาไม่นานนักนะครับ
X- SEDONA , ARIZONA เวลา 00:21:15
Cable และ Nemesis เทเลพอร์ทมาที่โรงงานของบริษัทอีท-มอร์ ตามแผนการณ์โจมตี
Cable : ดอมรายงานมาสิ โปรดบอกผมมาว่าคุณควบคุมไว้ได้แล้ว เราเพิ่งจะมาถึงนี่ดอม ?
Forge : ทุกอย่างเป็นข้อมูลสำรองและกำลังทำงานอยู่ เนท
******************************************************
Forge : เธอแค่ไม่ตอบกลับมา
Cable : แล้วคนที่อยู่ข้างในล่ะ ? โคลอสซัสเป็นไงบ้าง ?
Forge : ไม่มีสัญญาณวิทยุจากพวกเขาเลย
Forge : ฉันจับสัญญาณชีวภาพพิลึกๆได้จากในตัวอาคาร ข้างในมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น
******************************************************
Nemesis : เราจะเอาไงกันดี ?
Cable : พวกเราช้าไปครึ่งชั่วโมง เราไม่มีทางเลือกที่ขาวสะอาดและมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกด้านของกำแพงนั้น นั่นไม่มีบทดีๆให้เล่นเลย
******************************************************
Cable ยิงปืนใหญ่ใส่กำแพง ( มันจะเสียเวลาวางแผนทำอะไรกันเงียบๆตั้งแต่ต้นเล่มทำไมเนี่ย )
Cable : ทะลวงมันเข้าไปเลย
หลังกำแำพง Colossuss กำลังตกอยู่ในวงล้อมของ อมนุษย์กลายพันธุ์
หน้าสุดท้ายนี่ทะลวงเข้าไปได้ถูกจุดมากๆ 5555+
ตอบลบแต่ก็หน้าสงสาร Hope นะเนี่ย โดนพ่อแยกออกมาอีกแล้ว
สงสารโฮป อยากอยู่กับพ่อเเต่ถูกไล่ตลอด
ตอบลบ"ทำไมคุณต้องพยายามมาช่วยเด็กคนนี้เถียงด้วย ดอม?"
ตอบลบน่าจะเป็น "คุณเคยลองเถียงกับเด็กนี่รึเปล่าล่ะ" ประมาณนี้มากกว่านะคับ
เพราะโฮปเป็นเด็กหัวดื้อ เคเบิ้ลเลยขี้เกียจจะเถียงด้วยยิงยาสลบซะเลยมากกว่า :)
ขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณที่ สปอย
ตอบลบ